article

[vc_row][vc_column][vc_column_text]ผลสำรวจ DEKWE POLL เกี่ยวกับหัวข้ออาชีพในฝัน จากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนทั้งสิ้น 2,300 คน ได้ผลสรุปที่น่าสนใจโดยอาชีพแพทย์นำโด่งเป็นอันดับที่ 1 ขณะที่วิศวกร และ เภสัชกร ตามมาเป็นอันดับที่ 2 และ 3 ตามลำดับ

ถือเป็นประเด็นคำถามที่น้องวัยเรียนให้ความสนใจอย่างมากว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์(วิศวะ)มีสาขาอะไรให้เราเลือกเรียนได้บ้าง วิศวะแต่ละสาขาเรียนหนักแค่ไหน จบไปแล้วประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง วิศวะอะไรที่จบมาแล้วมีโอกาสหางานได้ทันที ทุกประเด็นถือเป็นเรื่องสำคัญและมีอิทธิพลต่อการเส้นทางในอนาคตของน้องทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามครั้งนี้พี่ขออนุญาติไล่เรียงตอบเรื่องของสาขาก่อนนะคะ … เริ่มกันเลย

การได้พบปะหรือทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ย่อมส่งผลดีกับเรามากมาย ทั้งการเปิดโลกทัศน์แบ่งปันมุมมองใหม่ หรือเวลาพักก็มีคนให้เราพูดคุยเพิ่มขึ้นช่วยให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้นตามไปด้วยดังนั้นแล้วไม่ใช่เรื่องเสียหายหากเราจะมองหาเพื่อนใหม่จากชีวิตในโรงเรียนกวดวิชา

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2559 หนังสือพิมพ์ผู้จัดการได้เปิดเผยรายชื่อโรงเรียนกวดวิชายอดฮิตโดยมีชื่อของสถาบันกวดวิชา วี บาย เดอะ เบรน โผล่ขึ้นมาเป็นชื่อแรก ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำกวดวิชาอันดับ 1 และเป็นเครื่องหมายการันตีสำหรับน้องๆซึ่งกำลังมองหาที่เรียนพิเศษได้เลยว่า เมื่อนึกถึงโรงเรียนกวดวิชาคณิต – วิทย์ ก็ต้อง วี บาย เดอะ

             การเรียนวิชาของแผนวิทย์ ปัญหาที่น้องหลายคนหนักอกหนักใจคือเรียนแล้วรู้สึกไม่เข้าใจอ่านเท่าไหร่ ท่องเท่าไหร่ หรือแม้กระทั่งคิดว่าจำได้แล้ว แต่พอเจอโจทย์ข้อสอบจริงๆกลับทำไม่ได้วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับรูปแบบการเรียนรู้ที่เรียกว่า The Leaning Cycle อะไรคือ The Leaning Cycle …

จุดเริ่มต้นถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดสำหรับชีวิตคนเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงาน การศึกษาการใช้ชีวิต เพราะการมีจุดเริ่มตเนที่ดีจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ในทุกด้าน และ ทุกเส้นทางที่เราเลือกที่สำคัญความสำเร็จที่เกิดขึ้นจะเป็นความสำเร็จอย่างยั่งยืนอีกด้วย

[vc_row][vc_column][vc_column_text]น้องม.ปลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้องม.6 ที่เข้าสู่ช่วงการเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างเต็มตัวคงจะคุ้นเคยกันดีกับคำว่า แอดมิชชั่น สอบตรง รับตรง โควตา … แต่เชื่อว่าคงมีน้องจำนวนอยู่ไม่น้อยที่สงสัยว่าการสอบแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร

หลังจากจัดกิจกรรมร่วมสนุกเพื่อแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทาง LINE@ เกี่ยวกับแผนการเรียน เด็กวิทย์ VS เด็กศิลป์ มีกระแสตอบรับดีเกินคาด พี่วีวี่ซึ่งเป็นพนักงานงบน้อยไม่มีของขวัญอันใดจะมอบให้ จึงขอตอบแทนการแสดงความคิดเห็น ผ่านบทความที่จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับน้องๆแทนนะคะ ^^ ก่อนอื่นขอประกาศผลการโหวต นับตั้งแต่วันที่ 29 กุมภาพันธ์ กระทั่งปิดโหวตเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา … ผลการโหวตก็ได้ออกมาตามข้อสรุปด้านล่างนี้จ้า

เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์น้องหลายคนก็จะต้องเริ่มเสาะแสวงหาโรงเรียนกวดวิชาเพื่อแต่งเติมเสริมความรู้ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสภาวการณ์แข่งขันทางการศึกษาที่เข้มข้น ทำให้ระดับความรู้และความเข้าใจที่มียังอาจไม่พอเพียง แต่เมื่อ Search คำว่าสถาบันกวดวิชา หรือ กวดวิชา ลงไปในเท่านั้น … อุ๊ต๊ะ!!! มันช่างมากมายไปเสียหมด ที่นี้จะเอามาตัดสินดีว่าท้ายที่สุดเราควรเลือกที่ไหน อย่างไร เพราะอะไร

เป็นความบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบนะคะ อยู่ดีๆพี่วีวี่ก็รู้สึกว่าการใช้ชีวิตที่โรงเรียนกวดวิชามันช่างละม้ายคล้ายคลึงกับการวิ่งมาราธอนเสียเหลือเกิน … ไม่ใช่ในแง่ความเหนื่อยเท่านั้นนะ แหม่ๆๆแต่ 2 สิ่งนี้ มีจุดร่วมของแก่นแห่งความสำเร็จบางประการที่ซ่อนอยู่ … ว่าแล้วก็ลองดูกันเลย

 น้องหลายคนมักมีความเชื่อว่า เมื่อเราเลือกติวกับสถาบันกวดวิชาชื่อดังแล้ว ยังไงซะคะแนนสอบก็ต้องออกมาดีขึ้น หรือ คิดเอาเองล่วงหน้าแล้วว่าเรียนรู้เรื่องแน่นอนจนลืมไปว่า โรงเรียนกวดวิชาเป็นแค่ปัจจัยสนับสนุนที่ดีเท่านั้น แต่องค์ประกอบสำคัญหลักมาจากตัวน้องล้วนๆ

          เมื่อใกล้ถึงช่วงซัมเมอร์ หรือ โรงเรียนกำลังจะปิดเทอม สิ่งที่น้องหลายคนมักจะเซิร์ชหาข้อมูล   มากที่สุดไม่แพ้สถานที่ท่องเที่ยว รอบหนัง หรือ ร้านอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ คือ สถาบันกวดวิชาจนถือได้ว่าชีวิตในโรงเรียนกวดวิชากับช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ กลายเป็นของคู่กันสำหรับน้องๆไปแล้ว

ช่วงใกล้ซัมเมอร์ถือเป็นเวลาแห่งความคึกคักที่น้องหลายคนจะต้องมองหาสถาบันกวดวิชาบางคนไม่คิดอะไรมากหรือไม่รู้เป้าหมายด้วยซ้ำว่าจะกวดวิชาอะไร เลือกโรงเรียนกวดวิชาไหน หรือเรียนไปเพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวเองอย่างไร … โดยคำตอบสุดท้ายคือ เรียนตามเพื่อน จ้า …. !!!

แพทย์ ถือเป็นอาชีพในฝันของใครต่อใครหลายคน ซึ่งน้องต่างก็รู้ดีว่ากว่าที่เราจะก้าวข้ามจากการเป็นนักเรียนไปสู่การประกอบอาชีพแพทย์ จะต้องผ่านช่วงเวลาของการเป็นนักศึกษาแพทย์ เสียก่อน การใช้ชีวิตระหว่างการเป็นนักศึกษาแพทย์นั้น นอกจากจะต้องเผชิญกับความยากลำบากของเนื้อหาการเรียนที่หนักหน่วง และการใช้ชีวิตที่แปลกไปจากคนอื่นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนให้ความสำคัญก็คือการปรับตัวให้เข้ากับสังคมใหม่ (ที่เรามักคิดไปเองว่าต้องมีแต่คนเก่งๆ ตั้งใจเรียนมากๆ)

เนื่องจากการเรียนกวดวิชาจะมีตัวเลือกเกี่ยวกับรูปแบบของคอร์สเรียนที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละคอร์สที่สถาบันกวดวิชาเขาได้จัดสรรมานั้นก็จะมีคุณลักษณะเฉพาะ เช่น แบ่งตามรายวิชา แบ่งตามช่วงชั้นหรือ แบ่งตามเป้าหมายของน้อง เป็นต้น … โดยครั้งนี้พี่วีวี่จะมาพูดถึงคอร์สตะลุยโจทย์ อะไรคือ “ คอร์สตะลุยโจทย์” … คำตอบง่ายมากค่ะ มันคือคอร์สที่พี่ติวเตอร์จะเน้นให้น้องเรียนรู้และทำความเข้าใจด้วยการทำโจทย์ล้วนๆ ที่นี่เด็กเทพบางคนหรือผู้ที่สังกัดสมาคมต่อต้านสถาบันกวดวิชาก็จะแย้งขึ้นมาทันที่ว่า “ถ้าแบบนั้นซื้อหนังสือโจทย์เก่ามาทำเองที่บ้านไม่ดีกว่าหรอ ไม่ต้องเปลืองตังด้วย”

สมาธิระหว่างการเรียนเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่ อย่างไรก็ตามอาการสมาธิหลุดถือเป็นเรื่องปกติ ที่มักกิดขึ้นกับน้องๆซึ่งเรียนมาทั้งวันจนสมองล้า เหนื่อยกับการเดินทาง หรือ พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นต้น ดังนั้นพี่วีวี่จะมาขอแนะนำเทคนิคง่ายๆที่สามารถปฏิบัติได้จริงระหว่างที่น้องอาจจะเดินทางมายังโรงเรียนกวดวิชา หรือ แม้กระทั่งระหว่างที่น้องนั่งเรียนกวดวิชาอยู่ด้วยซ้ำ โดยมี 6 ข้อ ที่น่านำไปปฏิบัติตามสำหรับแก้ปัญหาสมาธิหลุด ดังต่อไปนี้

[vc_row][vc_column][vc_column_text]สวัสดีค่ะน้องๆ หลังจากที่ทาง กสพท. ประกาศผลคะแนนการสอบ 9 วิชาสามัญออกมาแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายสำหรับเส้นทางของการสอบตรงมุ่งสู่คณะแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ และใหม่ล่าสุดอย่าง สัตวแพทยศาสตร์ อย่างไรก็ตามอย่าลืมเช็คคะแนน O-NET ในวันที่ 21 มีนาคม นี้นะเพราะถ้าภาพรวมออกมาไม่ถึง 60% ก็ฝันสลายได้เหมือนกัน

ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชน “นิด้าโพล”  ทำการสำรวจเรื่อง “โรงเรียนกวดวิชา” โดยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ เยาวชนที่กำลังศึกษาในระดับ ป.4 ถึง ม.6 ในพื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,116  คน โดยได้ผลการสำรวจที่น่าสนใจแบ่งออกเป็น 4 ด้าน

ใกล้ถึงช่วงซัมเมอร์ … ต้องเตรียมตัวขึ้น ม.1 หรือ ก้าวขึ้นสู่ชั้น ม.4 … หลายคนอยากสอบให้ได้ A ส่งผลให้เกรดเฉลี่ยเพิ่มขึ้น และหลายคนอยากได้ควาพร้อมก่อนสอบสนามใหญ่มุ่งสู่รั้วมหาวิทยาลัยด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นทำให้กลุ่มน้องๆต้องมองหาออปชั่นเสริมที่จะส่งผลดีกับตัวเอง การเรียนกวดวิชาตามสถาบันกวดวิชาต่างๆ จึงเป็นทางเลือกแรกในใจที่เกิดขึ้นแบบอัตโนมัติและเมื่อพฤติกรรมเหล่านี้ก่อตัวรวมกันเป็นค่านิยมหรือกระแสทางการศึกษาของเด็กรุ่นใหม่ ส่งผลให้ มีการตั้งคำถามว่า การติวที่โรงเรียนกวดวิชาคือความจำเป็นหรือค่านิยมกันแน่ ???