article

             เด็ก GEN Z อย่างเราที่อยู่ในยุคสัมคมสารสนเทศ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง  ชอบพิทักษ์สิทธิของตัวเอง อยากทำกิจวัตรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน ฝังตัวอยู่กับโลกออนไลน์ และที่สำคัญที่สุดคือต้องอยู่ในสภาวะการแข่งขันของการศึกษาที่เข้มข้น ดังนั้นจึงต้องมองหาโรงเรียนกวดวิชาที่เหมาะสม

          ไม่ว่าจะเป็นเพราะค่านิยม ความมุ่งมั่น หรือความสบายใจ แต่เด็กนักเรียนกับการเรียนกวดวิชากลายเป็นของคู่กันไปแล้ว และไม่ใช่ที่ประเทศไทยเท่านั้น แม้แต่เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น หรือแม้กระทั่งสิงคโปร์เด็กวัย 12-18 ปี ต่างฝังตัวอยู่ที่โรงเรียนกวดวิชามากกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเราเสียอีก

น้องหลายคนเมื่อถึงเวลาเลื่อนระดับชั้นเรียนสู่ ม.1 หรือก้าวขึ้นมาเรียนในระดับชั้น ม.4 มักจะเริ่มมองหาโรงเรียนกวดวิชาเพื่อหวังเพิ่มความรู้ให้กับตัวเอง และในยุคนี้สถาบันกวดวิชาก็มีมากมายก่ายกอง

[vc_row][vc_column][vc_single_image image=”8678″ img_size=”full” alignment=”center” css=”.vc_custom_1466325024469{margin-right: -40px !important;margin-left: -40px !important;}”][vc_column_text]น้องเชื่อไหมค่ะว่า กิจกรรมเล็กๆน้อยๆที่เราทำในแต่ละวันสามารถเปลี่ยนจากความเพลิดเพลินที่ไม่มีประโยชน์ให้กลายมาเป็นอาหารสมองของตัวเราได้ โดยมีผลการวิจัยจากประเทศระบุออกมาว่ากิจวัตรประจำวันบางอย่าง ถ้าเราทำอย่างถูกวิธีหรือทำอย่างเหมาะสม จะมีผลต่อความฉลาดของเรา

ใกล้สอบแอดมิชชั่น กับเทคนิค การพูดกับตัวเอง หรือ Self-Talk ซึ่งส่วนใหญ่น้องจะได้เห็นตามหนังหรือละคร ที่ดูแล้วก็งงๆว่า เขาคนนั้นพูดกับใคร เพราะทั้งฉากก็มีตัวละครอยู่ตัวเดียว … แท้จริงแล้วการพูดคนเดียวหรือพูดกับตัวเองถือเป็นสิ่งที่เราควรทำอย่างมาก โดยมีผลวิจัยระบุว่าคนที่พูดกับตัวเองบ่อยๆนับว่ามีความอัจฉริยะในตัว

เคยสงสัยไหมว่าทำไมหนอ? เวลาอยู่ที่แคบๆ นั่งไม่สบาย แสงสว่างไม่พอ หรือ บรรยากาศกดดัน เราก็จะเรียนไม่รู้เรื่อง แตกต่างเวลาที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ทั้งด้านกายภาพ เช่น อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี้ และด้านจิตวิทยา คือ ความเป็นกันเอง สนุกสนาน เรากลับเข้าใจเนื้อหาการเรียนได้ดีกว่า

การวางแผนเรียนกวดวิชาถือเป็นสำคัญแต่น้องหลายคนกลับมองข้าม เพราะคิดเพียงแค่ว่าจะเลือกเรียนที่ไหนดี แต่กลับลืมนึกถึงว่า เราจะจัดสรรเวลาอย่างไรให้ลงตัว และผลสุดท้ายที่เห็นกันบ่อยๆคือ ลงคอร์สทุกวิชาและอัดแน่นในช่วง ม.6 จนชีวิตแทบจะไม่เห็นเดือนเห็นตะวันกันเลยทีเดียว

น้องหลายคนคงจะรู้สึกถึงอาการนอนไม่เต็มอิ่ม โดยเฉพาะช่วงใกล้สอบมิดเทอม-ปลายภาคหรือแม้กระทั่งการสอบแอดมิชชั่น เพราะนอกจากจะมีการบ้านหรือชิ้นงานที่ดองเอาไว้ ยังจะต้องไปติวที่    โรงเรียนกวดวิชา พอกลับบ้านก็ต้องแบ่งเวลามาทบทวนบทเรียนเพื่อทำข้อสอบให้ได้คะแนนดีๆอีก

เมื่อใกล้ถึงคาบเรียนวิชาคณิตศาสตร์ทีไร อาการเบื่อหน่าย ง่วงนอน สมองเบลอ ฯลฯ มักจะเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติ สาเหตุไม่มีอะไรมากนอกจากความยากระดับ 5 กะโหลก บวกกับรูปแบบการสอนที่เน้นหนักไปทางการท่องและจำสูตรให้ได้ก่อน ถึงจะตามมาด้วยการแก้โจทย์ได้อย่างถูกต้อง ปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานและทำท่าเหมือนจะเป็นปัญหาเรื้อรังที่แก้ได้ยากน้องๆบางคนจึงเลือกหันหลังให้กับวิชานี้ หรือบางคนก็จะเลือกหาที่เรียนเพิ่มเติมกับ สถาบันกวดวิชา ซึ่งสร้างความแตกต่างบางประการให้เกิดขึ้นกับการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ได้

เห็นแล้วอย่าเพิ่งตกใจกันนะคะน้องๆ พี่วีวี่ไม่ได้มาชวนให้น้องเอาเงินมาลงทุนกับ สถาบันกวดวิชา ด้วยการฝากแล้วจะให้ดอกเบี้ยสูง หรือเปิดพรีเซนเทชั่นให้ดูแล้วโน้มน้าวให้มาทำธุรกิจเครือข่ายแต่อย่างใดถ้าเช่นนั้นสงสัยไหมค่ะว่า สถาบันกวดวิชา เกี่ยวอะไรกับการลงทุนในวัยของเรา ???  

สถาบันกวดวิชา (WE)  มีอาชีพมาแนะนำ วิชาคณิตศาสตร์ถือเป็นของหินสำหรับน้องหลายคนไม่ว่าจะเป็นระดับ ม.ต้น หรือ ม.ปลายแต่ต้องยอมรับว่าคณะที่คาดหวังและอาชีพในฝันโดยส่วนมากมักจะต้องผ่านวิชาคณิตศาสตร์ไปให้ได้โดยเฉพาะกับเด็กที่มาจากแผนวิทย์-คณิต

การเรียนกวดวิชาเป็นค่านิยมหรือไม่ สำหรับพี่วีวี่ถึงแม้ว่าคำตอบจะออกมาเป็น ใช่ หรือ ไม่ นั้นไม่ใช่สิ่งที่ต้องนำมาใส่ใจ เพียงแต่น้องต้องพิจารณาว่าเมื่อเราเลือกสินค้า (ซึ่งในที่นี้หมายถึง คอร์สเรียน)มูลค่าและต้นทุน (เงิน และ เวลา) ที่เราเสียไปคุ้มกับคุณค่าที่เรากำลังจะได้รับหรือไม่

ไม่มีใครที่เก่งไปทุกวิชาการเรียนหรอก … นี่คือคำปลอบใจที่พี่วีวี่มอบให้กับตัวเองสมัยเรียนหนังสือและสิ่งที่ตัวพี่ได้พบก็คือ ไอ้วิชาที่ไม่เก่งก็คือ คณิตศาสตร์ และวิชานี้ก็โผล่ไปหลอกหลอนตัวพี่ทุกหนทุกแห่งตั้งแต่ ม.ปลาย – มหาวิทยาลัยระดับ ป.ตรี ไปจนถึง ป.โท …. สยองสุดๆเลย

[vc_row][vc_column][vc_column_text]น้องๆทราบกันหรือไม่ค่ะว่า การรู้จักวางเป้าหมาย เป็นประโยคสั้นๆง่ายๆ แต่กลับมีอิทธิพลต่อการตัดสินอนาคตหรือชะตาชีวิตของเราในทุกด้านอย่างมาก ไม่ว่าจะบุคคลผู้นั้นจะทำอะไรก็ตาม เช่น ประกอบธุรกิจ เป็นนักร้อง-นักแสดง นักกีฬา หรือแม้กระทั่งการเป็นนักเรียน

มีกระแสในโลกออนไลน์มากมายพูดถึง สถาบันกวดวิชา ว่าเป็นการเรียนแบบผิดๆ !!! โดยกล่าวอ้างไปถึงเรื่องปลูกฝังให้น้องแสวงหาทางลัดที่จะมุ่งสู่ความสำเร็จให้ได้อย่างรวดเร็ว แต่เดี๋ยวก่อนนะ … คำว่า ทางลัด กับ เทคนิค ยังมีเส้นบางๆแยกความแตกต่างของมันอยู่สำหรับพี่วีวี่ ทางลัด คือการทำทุกหนทางไม่ว่าจะถูกหรือผิดจริยธรรมเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย เช่น การลอกข้อสอบของเด็กวัยเรียน หรือ ทำโน้ตเข้าห้องสอบ

ทุกครั้งที่น้องๆเปิดหาบทความหรือข้อมูลอ่านไม่ว่าจะเป็นก่อนสอบแอดมิชชั่น สอบกลางภาค-ปลายภาค ฯลฯ สิ่งที่เจอนอกจากตัวอย่างข้อสอบหรือแนวทางการทำข้อสอบ ก็คือเทคนิคมากมายที่เกี่ยวข้องกับการปรับพฤติกรรมตัวเอง ถูกต้องไหมค่ะ ???

หลังจากที่พี่วีวี่ได้มีเวลากระดิกตัวเปิดข่าวสารเพื่อหาสาระความรู้ใส่ตัว นั้น สายตาก็ได้กวาดไปเจอข่าวเกี่ยวกับการศึกษาที่น่าสนใจข่าวหนึ่ง นั่นคือ “10 อาชีพวิทยาศาสตร์” ประเทศไทยขาดแคลนหนัก” หนักขนาดไหน …ก็ถึงกับต้องจ้างบุคลากรในตำแหน่งเหล่านี้มาจากต่างประเทศเลยทีเดียว

การแข่งขันของกลุ่มสถาบันกวดวิชาทุกวันนี้ค่อนข้างจะมีมากนะคะเพราะทุกครั้งที่น้องๆได้เริ่มต้นพิมพ์ในอากู๋ (Google) แบบไม่จบประโยค ก็จะมีชื่อโรงเรียนกวดวิชาหรือ ติวเตอร์ต่างๆ โผล่ขึ้นมาทันทีและเมื่อน้องเข้าไปดูในเว็บไซต์ทุกหน้าแรกก็จะมีข้อความและรูปภาพที่ดึงดูดความสนใจอยู่เต็มไปหมดเมื่อสินค้า (คอร์สเรียน)